เขียนแด่...วิชาชีพครู
************************
จากหนังสือ ว6/2560 ที่แก้ไขคุณสมบัติการรับสมัครสอบครูผู้ช่วย เปิดกว้างให้หลากหลายสาขาวิชามาสอบเป็นครูได้ โดยไม่ต้องเรียนวิชาชีพครู และมีใบประกอบวิชาชีพครู ซึ่งเป็นวิชาชีพชั้นสูง มีสภาวิชาชีพรองรับ หากในสาขาวิชาที่เรียนนำหน่วยกิตมานับ หากครบหรือเพียงพอในสาขาวิชาเอกใด ก็สามารถไปสอบในวิชาเอกต่างๆนั้นได้ ทำให้เกิดกระแสในโลกโซเชียล จากมุมมองนักการศึกษา และ อีกหลายๆบุคคลในสังคม มีความเห็นต่างกันอยู่มาก นัยของการเปิดโอกาสครั้งนี้ บอกว่าต้องการคนเก่ง เข้าไปเป็นครูเพื่อจะทำให้การศึกษาของไทยดีขึ้น และแก้ปัญหาการศึกษาของไทยที่ผ่านมา
ลองยกตัวอย่างสักสองสามเรื่องให้อ่านในเชิงความรู้สึกครับ
- ถ้าคุณเปิดร้านอาหาร มีคนมาสมัครงานเป็นเชฟหรือกุ๊กทำอาหาร รู้สูตรอาหารทุกชนิด บอกได้หมดว่า มีส่วนผสมอะไร มีขั้นตอนวิธีการปรุงอย่างไร แต่ไม่เคยประกอบอาหารเลย หรือเคยเป็นลูกมือช่วยเชฟคนอื่นๆมาก่อนเลย ไม่มีประสบการณ์ คุณเป็นเจ้าของร้าน และคุณต้องดำเนินกิจการทันที คุณจะรับหรือไม่
- ถ้าคุณจะสร้างบ้านสักหลัง มีคนมาบอกว่า จบวิศวะ เก่งมากเรื่องการออกแบบการก่อสร้าง แต่ไม่เคยรับงานสร้างบ้านมาก่อน หรืออยู่ในบริษัทก่อสร้างคลุกคลีอยู่ในไซต์งานของการก่อสร้างงานเลย คุณอยากจะเอาคนๆนี้สร้างบ้านให้คุณหรือไม่
- ถ้าคุณไปโรงพยาบาล มีหมอจบใหม่ จะมารักษาคุณและผ่าตัดคุณ แต่หมอคนนี้ ไม่เคยฝึกปฏิบัติกายวิภาคเลย แต่เก่งและรู้ทฤษฎีในการผ่าตัดทั้งหมด รวมถึงไม่เคยฝึกหัดร่วมกับอาจารย์หมอผ่าตัดมาก่อน เป็นคุณๆจะยินยอมให้หมอคนนี้ผ่าตัดคุณหรือไม่
ลองคิดพิจารณาดูเองครับคำตอบคงมีอยู่ในใจ
การศึกษาของไทยไม่ใช่การทดลอง ผลพวงมันไม่เกิดขึ้นให้เห็นเด่นชัดในทันที เหมือนกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากตัวอย่างข้างต้น แต่มันเป็นผลกระทบระยะยาว ต่อลูกหลานเรา
จริงอยู่ที่คนทุกคนสามารถพัฒนาได้ เก่งได้ และเกิดความรัก ความศรัทธาในวิชาชีพนั้นๆได้
แต่ทว่า เราอาจจะต้องใช้เวลามากขึ้นกับการที่ให้คนๆนั้น เกิดความรู้สึกรักและศรัทธา เข้าถึงซึ่งอุดมการณ์จิตวิญญาณในวิชาชีพครู หากไม่เคยเรียน หรือเคยผ่านการฝึกสอนมาตั้งแต่ต้น
ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับคนที่ตั้งใจเรียนเพื่อมาเป็นครู คงใช้เวลาน้อยลง ทั้งผู้ที่เรียนครู 5 ปี หรือ เรียนจบปริญญาตรี ในสาขาอื่นๆแต่อยากหันเหมาเป็นครู ก็สละเวลา ไปเรียนวิชาชีพครูเพิ่มจนได้ ป.บัณฑิตวิชาชีพครู ซึ่งขณะนี้ คนที่มีใบประกอบวิชาชีพครูมีมากมายอยู่แล้ว และมีเหลือเฝือในการบรรจุ ในอีก 10 ปีข้างหน้าด้วยซ้ำ คนที่ตั้งใจเรียนและมีเป้าหมายในชีวิตมาเป็นครูจะรู้สึกอย่างไร
สุดท้าย เราอย่าคาดหวังว่า คนเก่ง จะทำให้การศึกษาดี
เพราะในปัจจุบันนี้ ครู คือ ผู้จัดกระบวนการเรียนรู้ ครูดีต้องมีเทคนิคการสอนที่ดี มีจิตวิทยาที่ดี เข้าถึง เข้าใจ ในจุดมุ่งหมายของหลักสูตร และเป้าหมายของการจัดการศึกษา สิ่งเหล่านี้ ล้วนเกิดขึ้นจากการเรียนการสอนในวิชาชีพครูทั้งสิ้น อยากฝากไว้ให้พิจารณาครับ
หากเป็นครู โดยไม่ได้อยากเป็นครู และมีอุดมการณ์ของความเป็นครู มาตั้งแต่ต้นแล้วไซร้ การจัดการศึกษาของไทยก็คงเหมือนเดิม
*******************
เลิศชาย ปานมุข
25 มีนาคม 2560
