ผู้เขียน หัวข้อ: ของขวัญอันล้ำค่า (ดอกไม้แห่งความจริงใจ)  (อ่าน 3142 ครั้ง)

ออฟไลน์ เลิศชาย ปานมุข

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3926


แต่ก่อนนานมาแล้วยังมีชายชราคนหนึ่งแก่มากจนจำอายุตนเองไม่ได้
หากใบหน้าของเขายังคงอิ่มเอิบเปล่งประกายเลือดฝาดเคราสีเงินยวงสะอาดตาของเขายาวปกคลุมมาถึงหน้าอก
ร่างกายของเขาแข็งแรงมาก ตายังไม่ฝ้าฟาง หูก็ยังไม่หนวก เขามีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง
แต่เขาก็ยังเป็นคนจัดการทุกสิ่งทุกอย่างภายในครอบครัว


ปีนี้ เขาตัดสินใจว่าจะเลือกใครคนหนึ่งจากลูกชาย ๑๕ คน ของเขามาสืบทอดภารกิจนี้เสียที
แต่ว่าจะเลือกใครดีละ เมื่อชายชราคิดวิธีที่ดีที่สุดได้ จึงสั่งให้ลูกชายทั้ง ๑๕คนมาพบแล้วแจกเมล็ดดอกไม้ให้ลูก ๆ คนละ ๑ เมล็ด
พร้อมทั้งบอกว่า ใครสามารถปลูกเมล็ดพืชนี้ให้งอกงามจนออกดอกบานสะพรั่ง คนนั้นก็จะได้เป็นผู้สืบทอดมรดกต่อไป
เมื่อลูก ๆ ได้เมล็ดพืชมาแล้ว ต่างนำไปปลูกและดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี
ลูกชายคนเล็กของชายชราผู้นี้มีชื่อว่า เสี่ยวเหลียงจือ

เมื่อได้เมล็ดดอกไม้แล้ว เขาก็นำไปปลูกในกระถางรดน้ำเอาใจใส่อย่างดี
ทุกวันทุกคืนแต่เมล็ดพืชนั้นก็ไม่แตกกล้าสักที
เสียวเหลียงจือรู้สึกเศร้าโศกเสียใจมากเวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว


ฤดูร้อนย่างกรายมาถึงแล้ว ชายชราผู้เป็นพ่อกำหนดว่าวันนี้จะเป็นวันคัดเลือกดอกไม้ของลูก
ลูกทุกคนต่างอุ้มกระถางดอกไม้ที่ออกดอกบานสะพรั่งอย่างสวยสดงดงาม มาให้ผู้เป็นพ่อชม เพื่อรอการคัดเลือก

ชายชราเดินตรวจดอกไม้ที่สวยงามในมือของลูกๆด้วยสีหน้าที่ไม่มีแววยินดีแม้แต่น้อย
เขาเดินครวจจากบุตรชายคนโตมาจนถึงบุตรชายคนที่ ๑๔ โดยมิได้หยุดเลย
เมื่อเดินมาถึงเสี่ยวเหลียงจือ บุตรชายคนสุดท้อง ซึ่งยืนถือกระถางเปล่าที่ไม่มีทั้งต้นไม้และดอกไม้
ชายชราจึงหยุดกึกอยู่ตรงนั้น เสี่ยวเหลียงจือน้ำตาไหลพราก กล่าวกับบิดาอย่างสำนึกผิดว่า
"พ่อครับ ผมไม่มีดอกไม้จะมอบให้พ่อ..." ชายชรากลับแย้มยิ้มและพูดอย่างยินดีปรีดาว่า "ลูกเอ๋ย" สิ่งที่เจ้ามอบให้พ่อนั้นมีค่ายิ่งกว่าดอกไม้มากมายนัก"
"อะไรหรือครับ"
"ความซื่อสัตย์ไงละ"

เรื่องราวเป็นอย่างไรกันแน่...
ชายชราจึงเปิดเผยความลับต่อลูกๆ ว่า ที่แท้เมล็ดพืชที่ตนแจกแก่ลูกๆ นั้น เป็นเมล็ดพืชที่นำไปคั่วจนสุกแล้ว


ดังนั้น ต้นไม้ที่ผลิดอกสวยงามเหล่านั้น
ล้วนมาจากเมล็ดพืชจากที่อื่นไม่ใช่เมล็ดพืชที่ผู้เป็นพ่อแจกให้ ดอกไม้พวกนี้จึงเป็นสักขีพยานยืนยันความไม่ซื่อตรงของพวกเขา
สุดท้ายชายชราจึงกล่าวอบรมลูก ๆ ว่า
"ขอให้ลูกๆจงเป็นคนซื่อตรงเถิด ความซื่อตรงเป็นสมบัติอันล้ำค่าของคนเรา"
ชายชราผู้มองการณ์ไกล มิได้มองหาลูกชายที่แข็งแรง ร่ำรวยหรือเฉลียวฉลาดเลย
หากแต่มองหาลูกชายที่ซื่อสัตย์จริงใจ แม้เสียวเหลียงจือจะมีเพียงกระถางว่างเปล่า
แต่ใจของเขางดงามยิ่งกว่าดอกไม้ใด ๆ เพราะเป็นใจที่เต็มเปี่ยมด้วยความซื่อสัตย์
ซึ่งเป็นคุณสมบัติอันหาได้ยากยิ่ง ในโลกที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งแข่งขันนี้

เขาจึงเป็นผู้ที่ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจและได้รับมอบหมายสิ่งสำคัญจากผู้เป็นบิดา
นี้ย่อมแสดงให้เห็นว่า ความซื่อตรง และจริงใจ เป็นสิ่งที่ทุกคนคาดหวัง
อยากได้จากกันและกันมากที่สุด ในชีวิตของเรา
เมื่อเราปรารถนาความซื่อตรงจริงใจจากทุกคน เราก็ควรเริ่มจากตัวของเราก่อน
มอบความซื่อตรงจริงใจให้แก่กัน
เพราะนี่คือสมบัติอันล้ำค่าที่เราทุกคนต่างปรารถนา
และสามารถมอบให้แก่กันและกันได้ให้โลกนี้ งดงามด้วยความจริงใจ
งามยิ่งกว่าดอกไม้ใดๆ ทั้งมวล



ที่มา  :  http://www.tamdee.net/note/view.php?No=614