ผู้เขียน หัวข้อ: ฉลาดทำใจ : เมื่อประสบความสำเร็จ  (อ่าน 3035 ครั้ง)

ออฟไลน์ เลิศชาย ปานมุข

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3926
เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2015, 09:48:16 PM

ใคร ๆ ก็ชอบความสำเร็จ เพราะนอกจากจะหมายความว่าน้ำพักน้ำแรงที่เขาทุ่มเทไปไม่สูญเปล่าแล้ว ยังอาจได้รับคำสรรเสริญหรือรางวัลอีกด้วย

แต่หากคุณไปคาดหวังคำสรรเสริญหรือรางวัล คุณอาจเป็นทุกข์ได้ง่าย ๆ

อันที่จริงความสำเร็จก็เป็นรางวัลอยู่แล้วในตัวเอง คือเป็นรางวัลแห่งความพากเพียรพยายาม ซึ่งคุณควรภาคภูมิใจ แม้นไม่มีใครสรรเสริญเลยก็ตาม

ยิ่งงานที่คุณทำนั้นเป็นประโยชน์เกื้อกูลผู้อื่น รอยยิ้มของเขาก็เพียงพอแล้วที่จะนำความสุขใจมาให้คุณ ความสุขอย่างนี้มีค่ามากกว่าคำสรรเสริญหรือรางวัลที่คนอื่นให้เสียอีก

จะว่าไปแล้วถึงคุณทำงานไม่สำเร็จ แต่หากพยายามอย่างเต็มที่แล้ว ก็ควรภาคภูมิใจที่ได้ทำ โดยเฉพาะเมื่องานนั้นเป็นสิ่งดีงามหรือถูกต้อง การทำสิ่งที่ถูกต้องดีงามแม้ไม่สำเร็จ ย่อมมีคุณค่ามากกว่าการประสบความสำเร็จในการทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อ ง

ความสำเร็จนั้นมิใช่เป็นของที่ได้มาง่าย ๆ ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะมีเหตุปัจจัยต่าง ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย งานแต่ละชิ้นที่ประสบความสำเร็จ มักจะมีหลายคนและหลายสิ่งมาช่วยสนับสนุนให้บังเกิดผลที่มุ่งหวัง ความสำเร็จจึงเหมือนภูเขาน้ำแข็ง ที่มีส่วนพ้นผิวน้ำเพียงส่วนเดียว แต่อีก ๑๐ ส่วนอยู่ใต้น้ำซึ่งไม่มีใครมองเห็น

ดังนั้นเมื่อประสบความสำเร็จ คุณควรตระหนักว่ามีผู้คนมากมายที่ช่วยหนุนส่งให้ความพยายามของคุณสัมฤทธิผลจนปรากฏเด่นเห็นชัดดังยอดภูเขาน้ำแข็ง

อย่างน้อยคุณก็ได้อาศัยความรู้และประสบการณ์ของเขามาประยุกต์ใช้ คุณจึงควรขอบคุณบุคคลเหล่านั้น และตระหนักว่าความสำเร็จดังกล่าวมิใช่เป็นของคุณคนเดียว แต่เป็นของผู้คนอีกมากมายด้วย

การมอบความสำเร็จให้ผู้อื่นมีส่วนเป็นเจ้าของด้วยนั้น เป็นการตระหนักถึงความจริงที่ช่วยลดอัตตาของคุณมิให้พองโต และจะดีกว่านั้นหากคุณยกความสำเร็จนั้นให้เป็นของ ?ธรรมชาติ? อันได้แก่เหตุปัจจัยต่าง ๆ อีกมากมายที่ช่วยให้งานของคุณสัมฤทธิผล โดยคุณเองก็เป็นส่วนหนึ่งของกระแสแห่งเหตุปัจจัยดังกล่าว

การทำเช่นนั้นจะช่วยให้คุณยึดติดในความสำเร็จดังกล่าวน้อยลง ไม่เป็นเจ้าเข้าเจ้าของจนใครมาแตะต้องหรือวิจารณ์ไม่ได้

เมื่อยกผลงานและความสำเร็จให้เป็นของธรรมชาติ คุณจะรับฟังคำวิจารณ์ด้วยใจที่เปิดกว้างและปล่อยวางได้มากขึ้น ไม่รู้สึกว่าคำวิจารณ์เหล่านั้นมากระทบ ?ตัวกู ของกู? จนต้องปกป้อง แก้ตัว หรือกราดเกรี้ยว

กับดักประการหนึ่งของความสำเร็จ คือ ทำให้เราหลงตัวได้ง่าย และเกิดความประมาท ไม่คิดเรียนรู้หรือปรับปรุงตัวเอง เพราะคิดว่าวันนี้สำเร็จแล้ว พรุ่งนี้ก็จะสำเร็จเช่นกัน

แต่ความเป็นจริงไม่ได้หยุดนิ่งหรือแน่นอนตายตัว ไม่ว่างานการและความสำเร็จจะยิ่งใหญ่แปลกใหม่เพียงใดก็ตาม สักวันหนึ่งก็จะกลายเป็นของธรรมดาและล้าสมัยไป ขืนทำซ้ำก็จะไม่ให้ผลเหมือนเดิม กลับจะกลายเป็นปัญหาและนำไปสู่ความล้มเหลวในที่สุด

บางคนจึงกล่าวว่า ความสำเร็จคือจุดเริ่มต้นของความล้มเหลว หรือเป็นความล้มเหลวที่ยังไม่ปรากฏ เมื่อเป็นเช่นนี้จึงควรที่คุณจะตื่นตัวอยู่เสมอ ไม่ยึดติดหรือประมาทในความสำเร็จ หากพร้อมจะปรับเปลี่ยนหรือเรียนรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ เพื่อพาตัวเองออกจากกับดักดังกล่าว

ขณะเดียวกันก็ไม่ควรหลงใหลได้ปลื้มกับความสำเร็จ ไม่เช่นนั้นก็จะต้องเศร้าโศกเสียใจเมื่อประสบกับความล้มเหลว อย่าลืมว่าไม่มีใครประสบความสำเร็จได้ตลอด

แม้แต่นักกีฬาที่เก่งที่สุดก็ยังต้องประสบกับความพ่ายแพ้ สำเร็จกับล้มเหลว แพ้กับชนะ เป็นของคู่กันที่ต้องเกิดกับคุณอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คุณไม่สามารถเลือกอย่างหนึ่ง และปฏิเสธอีกอย่างได้ ถ้าไม่อยากทุกข์ยามล้มเหลว ก็อย่าปล่อยใจเป็นสุขมากเมื่อได้รับความสำเร็จ


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


พระไพศาล วิสาโล. "ฉลาดทำใจ". เครือข่ายพุทธิกา, มิถุนายน 2550.