ผู้เขียน หัวข้อ: อั้นอุจจาระมากไปเป็นภัยต่อร่างกาย  (อ่าน 2733 ครั้ง)

ออนไลน์ เลิศชาย ปานมุข

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3923
การขับถ่ายเป็นเรื่องธรรมชาติที่พวกเราทุกคนจำเป็นที่จะต้องทำให้เกิดขึ้นในทุกๆวัน เพราะเมื่อเรามีการรับประทานอาหารเข้าไปแล้ว ร่างกายก็จะเกิดการย่อยและดูดซึมสารอาหารที่มีประโยชน์เข้าสู่ร่างกาย ส่วนกากอาหารที่เหลือที่ร่างกายไม่ต้องการใช้งาน ก็จะถูกสะสมและขับถ่ายออกมาเป็นอุจจาระ

แต่เนื่องจากชีวิตความเร่งรีบในทุกวันนี้ อาจจะทำให้คุณไม่มีเวลาที่มากเพียงพอในการที่จะปลดปล่อยของเสียหรือขับถ่ายอุจจาระให้เป็นไปตาม เวลาที่ควรที่จะเป็น หลายคนเลือกที่จะอั้นเอาไว้และรอให้มีเวลามากเพียงพอถึงจะไปปล่อยและขับถ่ายในห้องน้ำที่ตัวเองไว้วางใจ โดยเฉพาะวิถีชีวิตของคนเมืองที่จะต้องเผื่อเวลาในการเดินทางให้มากขึ้นแล้วด้วย ยิ่งทำให้การอั้นอุจจาระนั้นเกิดขึ้นได้แทบจะทุกวัน

อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้จำเป็นจะต้องอั้นอุจจาระ ก็คือ คุณอาจจะไม่ไว้วางใจการเข้าห้องน้ำสาธารณะหรือการเข้าห้องน้ำในที่อื่นๆที่ไม่ใช่บ้านของตัวเอง เนื่องมาจากมีความสกปรก ไม่สะอาดเพียงพอ ไม่มีสายฉีดชำระ หรือกลัวที่จะส่งเสียงดังหรือกลิ่นที่ไม่เหมาะสมสู่สาธารณะ ทำให้หลายๆคนจำเป็นจะต้องเก็บอุจจาระไว้ก่อนและรอไปปลดปล่อยที่บ้านเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

การอั้นอุจจาระแบบนี้เป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อร่างกายอย่างแน่นอน แต่มีความร้ายแรงต่อร่างกายมากน้อยแค่ไหน และอันตรายที่สามารถเกิดขึ้นกับร่างกายได้นั้นเป็นอย่างไรบ้าง ลองมาศึกษากันดูดีกว่า

ตามปกติแล้ว?เมื่อเรารับประทานอาหารเข้าไป ร่างกายจะใช้เวลาประมาณ 1-2 วันในการเตรียมพร้อมลำไส้เพื่อใช้ในการอุจจาระ ลำไส้ใหญ่จะเริ่มบีบตัวเล็กน้อยเพื่อเตรียมพร้อมกับกระบวนการขับถ่ายที่จะเกิดขึ้น และเมื่ออุจจาระเดินทางมาจนถึงปลายสุดของลำไส้ใหญ่ ลำไส้ก็จะเริ่มยืดตัวและเส้นประสาทจะส่งสัญญาณไปที่สมอง เพื่อให้สมองรับรู้ว่าถึงเวลาที่จะกำจัดของเสียออกจากร่างกายแล้ว การสื่อสารกันระหว่างสมองกับร่างกายจะทำให้คุณรู้สึกถึงการปวดอุจจาระนั่นเอง

การที่เราพยายามที่จะกลั้นอุจจาระบ่อยๆและไม่ยอมขับถ่ายอุจจาระตามเวลาที่ควรที่จะเป็นจะทำให้เกิดปัญหาต่างๆต่อร่างกายมากมาย โดยหากเราพยายามที่จะเลื่อนระยะเวลาการอุจจาระออกไป ไม่ยอมอุจจาระตามเวลา ร่างกายจะเริ่มเข้าใจว่าเราไม่อยากที่จะถ่ายอุจจาระ และเราจะเริ่มรู้สึกอึดอัดจากการที่อุจจาระ่ยังค้างอยู่ในร่างกาย เนื่องจากเลยเวลาที่ลำไส้ใหญ่จะต้องบีบตัวเพื่อขับถ่ายอุจจาระไปแล้ว

สิ่งที่ตามมาก็คืออาการท้องผูก เพราะการกลั้นไม่ให้ร่างกายขับถ่ายของเสียออกมาในเวลาที่เหมาะสม จะทำให้อุจจาระร่นกลับเข้าไปค้างอยู่ในลำไส้ใหญ่ และเกิดการสะสมจนทำให้การขับถ่ายที่จะเกิดขึ้นในรอบต่อไปมีความยากลำบากมากขึ้น และจำนวนของเสียที่จะต้องระบายออกมานอกร่างกายก็จะมากขึ้นกว่าเดิม อัดแน่นจนแข็งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การขับถ่ายที่ไม่เป็นเวลาจึงทำให้เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดอาการท้องผูก ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ อุจจาระที่ขับถ่ายออกมาก็จะมีกลิ่นที่รุนแรงมากกว่าปกติ เนื่องมาจากการสะสมของของเสียในร่างกายที่เป็นเวลานานนั่นเอง

หากเรายังคงมีอาการท้องผูกติดต่อกันเรื่อยๆเนื่องมาจากการอุจจาระที่ไม่เป็นเวลา ก็จะทำให้ระบบการขับถ่ายของร่างกายรวน อุจจาระที่ขับถ่ายออกมาจะมีลักษณะเป็นก้อนแข็งและบาดปากทวารหนัก ทำให้ด้านในของทวารหนักปริ้นออกมา มีเลือดออก เมื่อมีสัญญาณของการขับถ่ายในลักษณะเหล่านี้ จะเป็นสัญญาณสำคัญของการเกิดโรคริดสีดวงทวาร และอาจจะลุกลามไปถึงการเป็นมะเร็งลำไส้ในอนาคตได้ด้วย

หลังจากได้ฟังข้อเสียของการกลั้นอุจจาระไปแล้ว หลายคนคงไม่อยากให้เกิดสิ่งที่ไม่ดีต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการท้องผูก ริดสีดวงทวาร หรือมะเร็งลำไส้ในอนาคต เพราะฉะนั้นสิ่งที่คุณสามารถจะทำได้ให้ดีที่สุด ก็คือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับถ่ายของตัวเองทำให้เป็นเวลา และอาจจะมีการกระตุ้นการขับถ่ายด้วยการรับประทานอาหารบางอย่างที่มีกากใยอาหารสูง เพื่อที่จะช่วยในการเพิ่มมวลของอุจจาระ ทำให้การขับถ่ายอุจจาระเป็นไปได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้อีกหนึ่งสิ่งที่ควรจะทำ ก็คือ การดื่มน้ำให้มากๆ เพราะน้ำจะเข้าไปช่วยทำให้อุจจาระมีความนุ่ม และสามารถที่จะขับถ่ายออกมาได้ง่ายกว่า การที่ดื่มน้ำน้อยจนทำให้อุจจาระแข็งและทำให้การอุจจาระกลายเป็นปัญหาสำคัญของคุณ

ในส่วนของช่วงเวลาการอุจจาระก็เป็นสิ่งสำคัญที่ควรที่จะให้ความสำคัญในทุกๆวัน การเลือกเข้าห้องน้ำในเวลาเดิมๆจะทำให้ร่างกายจดจำและสามารถที่จะขับถ่ายเป็นเวลาได้ โดยเวลาที่แนะนำที่อยากจะให้เผื่อเอาไว้สำหรับการเข้าห้องน้ำและขับถ่ายอุจจาร ะก็คือ เวลาในช่วงเช้าหลังจากการตื่นนอน คุณจะต้องเผื่อระยะเวลาในการเข้าห้องน้ำส่วนนี้เอาไว้ทุกวัน เพื่อให้ร่างกายจดจำและทำเป็นกิจวัตร ทั้งนี้ หลายๆคนอาจจะเลือกที่จะขับถ่ายได้มากกว่าวันละ 1 ครั้ง โดยอาจจะเป็นในช่วงเวลาเช้าหลังตื่นนอนและเป็นช่วงเวลาอื่นๆที่เราสะดวกตลอดวัน ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับกิจวัตรประจำวันของคุณด้วย

หากเมื่อใดก็ตามที่เริ่มมีสัญญาณร้ายของการเกิดอาการท้องผูก ปัญหาอื่นๆที่เป็นโรคเกี่ยวกับริดสีดวงทวารหรือมะเร็งลำไส้ อาจจะตามหาคุณได้ในอนาคตอันใกล้ เพราะฉะนั้นเมื่อใดก็ตามที่เริ่มมีสัญญาณร้ายของโรคต่างๆเหล่านี้ ควรรีบเข้ามาพบแพทย์เพื่อหาทางแก้ไขให้รวดเร็วที่สุด

หากคุณป่วยเป็นโรคริดสีดวงทวารจริงๆ ในปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีใหม่ๆที่จะสามารถช่วยรักษาอาการโรคริดสีดวงทวารได้อย่างรวดเร็ว เจ็บน้อย มีแผลน้อย ฟื้นตัวไว และหากปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดการจะกลับมาเป็นโรคในซ้ำก็เกิดขึ้นได้น้อยลงด้วย อย่างไรก็ดีการปรับพฤติกรรมของตัวเองยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะถึงแม้ว่าคุณจะมีการรักษาด้วยวิธีที่ดีที่สุดเพียงใด แต่หากยังไม่สามารถปรับเปลี่ยนกิจวัตรการอุจจาระของตัวเองได้ ก็อาจจะยังสามารถเกิดโรคร้ายเหล่านี้ได้อยู่ดี



ที่มา https://www.xn--22c0cohr1b8cc2cr6npa.com/read/6496