ผู้เขียน หัวข้อ: รู้ไว้ห่างไกลมะเร็งตับและท่อน้ำดี  (อ่าน 3293 ครั้ง)

ออนไลน์ เลิศชาย ปานมุข

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3923
          แม้จะมีผลการวิจัยในต่างประเทศระบุว่า สาเหตุของมะเร็งส่วนใหญ่มาจากโชคร้าย คือเกิดจากปัจจัยภายในตัวผู้ป่วยบวกกับปัจจัยที่ยากจะคาดการณ์หรือป้องกัน แต่มะเร็งหลายชนิดก็ชัดเจนว่ามาจากพฤติกรรมการบริโภค โดยเฉพาะมะเร็งตับและท่อน้ำดี ซึ่งพบมากทางภาคอีสานและภาคเหนือ ซึ่งเกิดจากการดื่มเหล้า กินอาหารขึ้นรา อาหารสุกๆ ดิบๆ

          นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีโครงการตรวจคัดกรอง วินิจฉัย โรคมะเร็งตับ และท่อน้ำดี ที่โรงพยาบาลมะเร็งอุดรธานี ว่า โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ซึ่งสถิติของกระทรวงสาธารณสุข ปี 2554 พบว่าคนไทยเสียชีวิตจากโรคมะเร็งตับและท่อน้ำดี จำนวน 14,314 ราย เกินกว่าครึ่งเป็นคนภาคตะวันออก- เฉียงเหนือ หรือประมาณจำนวน 7,539 ราย รองลงมาคือภาคเหนือ จำนวน 2,638 ราย  ในแต่ละปีประเทศไทยมีผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งรายใหม่ประมาณ  20,000 คนต่อปี จึงถือเป็นโรคที่รุนแรง ก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ สังคม คุณภาพชีวิต และส่งผลกระทบ ต่อคนวัยทำงานช่วงอายุ 45-55 ปี มากที่สุด

          สำหรับมะเร็งตับและท่อน้ำดี ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดท้องที่ชายโครงขวาและร้าวไปที่ไหล่หรือหลัง ส่วนใหญ่จะมีอาการเบื่ออาหารและน้ำหนักลดร่วมด้วย บางรายมีอาการตัวเหลืองตาเหลืองซึ่งเกิดจากการอุดตันของท่อน้ำดี มักมีอาการคันและอุจจาระสีซีด มีอาการไข้ และเจ็บชายโครงขวาในกรณีที่มีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น เมื่อตรวจร่างกายมักพบตับโต

          สำหรับมะเร็งตับและท่อน้ำดี ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดท้องที่ชายโครงขวาและร้าวไปที่ไหล่หรือหลัง ส่วนใหญ่จะมีอาการเบื่ออาหารและน้ำหนักลดร่วมด้วย บางรายมีอาการตัวเหลืองตาเหลืองซึ่งเกิดจากการอุดตันของท่อน้ำดี มักมีอาการคันและอุจจาระสีซีด มีอาการไข้ และเจ็บชายโครงขวาในกรณีที่มีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น เมื่อตรวจร่างกายมักพบตับโต

          แม้ว่าปัจจุบันความก้าวหน้าทางการแพทย์ จะทำให้การรักษาโรคนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีโอกาสรักษาให้หายขาดได้ แต่เหตุที่โรคมะเร็งตับและท่อน้ำดียังเป็นโรคร้ายที่คุกคามชีวิตของประชากรไทย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้มักไม่แสดงอาการในระยะเริ่มแรก ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะได้รับการตรวจวินิจฉัยในระยะที่โรคลุกลามไปมากและไม่สามารถผ่าตัดได้แล้ว

          ดังนั้นกรมการแพทย์โดยโรงพยาบาลมะเร็งอุดรธานีร่วมกับมูลนิธิมะเร็งตับและ ท่อน้ำดี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงจัดทำโครงการตรวจคัดกรอง วินิจฉัย โรคมะเร็งตับและท่อน้ำดี เพื่อค้นหาและคัดกรองกลุ่มเสี่ยงโรคมะเร็งตับและท่อน้ำดีระยะ เริ่มต้น เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าสู่กระบวนรักษาได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ลดอัตรา การเสียชีวิตและลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ของประชาชนและภาครัฐได้ รวมทั้งสร้างภาคีเครือข่ายและพัฒนาความร่วมมือและการรักษามะเร็งตับและท่อน้ำดีอย่างมีประสิทธิภาพ

          อธิบดีกรมการแพทย์กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งตับและท่อน้ำดีได้แก่ โรคไวรัสตับอักเสบ ชนิดบี พยาธิใบไม้ในตับ สารเคมีต่างๆ สารพิษที่เกิดจากเชื้อรา อาหารหมักดอง การดื่มสุรา สิ่งผิดปกติที่พบและควรปรึกษาแพทย์ คือ เบื่ออาหาร แน่นท้อง ท้องผูก ท้องอืด ท้องเฟ้อ เป็นประจำ อ่อนเพลีย น้ำหนักลด มีไข้ต่ำ ปวดหรือเสียดชายโครง ด้านขวา อาจคลำก้อนได้ ตัวเหลือง ตาเหลือง ท้องโต และบวมบริเวณขาทั้งสองข้าง ส่วนการรักษามี หลายวิธี คือการผ่าตัด การใช้ยาเคมี และการฉายแสง

          สำหรับวิธีการที่ดีที่สุดการป้องกันการเกิดโรคโดยการให้วัคซีนไวรัสตับอักเสบชนิดบีในเด็กแรกเกิดทุกคน ไม่รับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ โดยเฉพาะปลาน้ำจืดดิบ เพื่อป้องกันการติด พยาธิใบไม้ตับ และควรเลี่ยงอาหารที่มีสาร ก่อมะเร็งได้แก่ อาหารที่มีราขึ้นหรือใส่ดินประสิว อาหารหมักดอง เนื้อสัตว์รมควัน ปิ้ง ย่าง ทอดจนไหม้เกรียม งดสูบบุหรี่ งดดื่มสุรา ลดความเครียด และออกกำลังกายอย่าง สม่ำเสมอ

          นอกจากนี้ผู้ป่วยที่มีโรคตับเรื้อรังหรือมี ประวัติเป็นโรคตับอักเสบ ควรได้รับการตรวจหามะเร็งอย่างสม่ำเสมอ

ที่มา  :  http://www.thaihealth.or.th/Content/27222