ผู้เขียน หัวข้อ: ถ่านดำกับเพชรวาว  (อ่าน 4874 ครั้ง)

ออฟไลน์ เลิศชาย ปานมุข

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3923
เมื่อ: สิงหาคม 21, 2016, 12:23:54 AM
ชีวิตทั้งหลายในโลกมีธาตุคาร์บอนเป็นฐาน ประสานกับธาตุอื่นๆ เรียงร้อยประกอบเป็นชีวิตต่างๆ ขึ้นมา ทั้งนี้เพราะธาตุคาร์บอนซึ่งมีมากมายบนโลกสามารถก่อเกี่ยวร้อยรัดกับธาตุอื่นๆ ได้ง่าย เราจึงเรียกชีวิตบนโลกว่า Carbon-based Life

เมื่อสิ่งมีชีวิตตายไป ซากร่างสลายตัว คาร์บอนก็หวนกลับสู่แผ่นดิน ผ่านระยะเวลานานหลายพันหลายหมื่นปีด้วยพลังความร้อนและแรงอัดใต้พิภพ มันก็กลายเป็นถ่านหินดำและน้ำมันฝังใต้ดิน รอคนขุดขึ้นมาใช้เป็นเชื้อเพลิง

การเผาถ่านหินและน้ำมันจึงคืนคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศ เป็นที่มาของภาวะโลกร้อน เพราะคาร์บอนในชั้นบรรยากาศมากเกินไป

คุณค่าของสสารต่างๆ ในโลกมักถูกกำหนดโดยปริมาณของมัน กรวดทรายไร้ค่าเพราะมีมากเกินไป ถ่านหินราคาถูกกว่าเพชรเพราะมันมีปริมาณมหาศาล แต่อีกเหตุผลหนึ่งคือค่านิยมความงาม เรามีค่านิยมว่าสิ่งที่ดำสกปรก แตกร่วนง่าย ย่อมมีค่าน้อยกว่าวัตถุที่ส่งประกายผลึกแวววาว

นักปราชญ์อุปมาคนชั่วกับถ่านหินดำ เพราะเกลือกกลั้วตอนมันร้อนแดงจะลวกมือ จับต้องตอนเย็นมือก็สกปรก

แม้ว่าคุณค่าของสสารเป็นสิ่งสมมุติและมายาที่เราสร้างขึ้นมา แต่เรามักเปรียบคุณสมบัติของสสารสองสิ่งนี้กับคุณสมบัติของคน คนที่แข็งแกร่งย่อมถูกเทียบกับเพชรเพราะมันเป็นสสารที่แกร่งที่สุดในโลก ส่วนคนที่มีลักษณะอย่างถ่านดำอ่อนด้อยกว่า

เราทุกคนโดยพื้นฐานเป็นถ่านดำไร้ค่า แต่เราสามารถเพ่ิมคุณค่าเป็นเพชร ผ่านการศึกษา การเรียนรู้ การทำงานหนัก การไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค

ย่อมมีคนแย้งว่า เราไม่อาจเปรียบมนุษย์เป็นเพชรกับถ่านหิน เพราะมันเป็นคนละชาติตระกูลกัน เสมือนลูกมหาเศรษฐีพันล้านกับลูกคนยากจน โอกาสไม่เท่ากัน อนาคตก็ย่อมต่างกันราวฟ้ากับเหว

การมองแบบนี้เท่ากับการยอมรับชะตากรรมแห่งชีวิตโดยไม่โต้แย้ง เนื่องจากคนส่วนใหญ่มองแบบนี้ จึงยากอย่างยิ่งที่จะขจัดวงจรอุบาทว์ต่างๆ ออกไปจากสังคม เพราะหลายคนเชื่อไว้ก่อนแล้วว่า ?ทำไม่ได้?

แล้วผิดหรือที่คิดอย่างนี้? ถ่านก็คือถ่าน เพชรก็คือเพชร ถ่านจะกลายเป็นเพชรได้อย่างไร?

คนที่ถามอาจจะประหลาดใจอย่างสูงถ้ารู้ว่าถ่านหินกับเพชรก็คือสิ่งเดียวกัน กำเนิดมาเหมือนกัน ทั้งสองเป็นธาตุคาร์บอนเดียวกันทุกประการ เกิดมาจากเศษซากชีวิตที่ตายไปแล้วทับถมกันในดินเหมือนกัน ข้อแตกต่างที่ทำให้คาร์บอนก้อนหนึ่งเป็นถ่าน อีกก้อนหนึ่งกลายเป็นเพชรอยู่ที่ทั้งสองผ่านความลำบากในชีวิตต่างกัน

ถ่านเกิดจากการทับถมของซาก Carbon-based Life ใต้ผิวโลกนาน แต่เพชรคือถ่านที่อยู่นานกว่า ถูกพลังความร้อนและแรงอัดหนักหน่วงกว่า มันต้องทนรับแรงอัดของโลกนานต่อเนื่องนับพันนับหมื่นปี จนในที่สุดมันก็เรียงอะตอมต่างออกไป กลายเป็นรูปลักษณ์ของเพชร

และเมื่อผ่านการเจียระไนครั้งสุดท้าย มันก็ก้าวถึงขีดสูงสุดของชีวิตมัน

ดังฉะนี้ถ่านสกปรกก็สามารถเปลี่ยนรูปเป็นเพชรได้ หากมันทนความร้อนและแรงอัดต่อไปไม่ย่อท้อ

คนเราก็สามารถเปลี่ยนตัวเองจากถ่านดำเป็นเพชร โดยความร้อนและแรงอัด

ความร้อนคือไฟความคิด ไฟสร้างสรรค์

แรงอัดคือการฝึกฝน การทำงานหนัก ความอุตสาหะ ความอดทน การชนปัญหา

สองสิ่งนี้รวมกันสามารถเปลี่ยนมนุษย์คนหนึ่งจากถ่านดำเป็นเพชรวาว เป็นสิ่งแข็งแกร่งที่สุดในปฐพี

ใช่ เราทุกคนกำเนิดเป็นถ่านดำเปราะบางเกลื่อนกลาดแผ่นดิน แต่มีความเป็นไปได้ที่จะกลายเป็นเพชรหายาก

น่าเสียดายที่บางคนพบความลำบากแล้วท้อถอย โดยไม่รู้ว่าหากอดทนอีกนิดเดียว อะตอมแห่งชีวิตก็จะเรียงตัวเป็นเพชร!

เราเลือกที่จะเป็นถ่านดำต่อไปหรือพยายามเปลี่ยนตัวเองเป็นเพชร หากถ่านดำที่ไม่มีสมอง คิดไม่ได้ สามารถเปลี่ยนสถานะเป็นเพชรแท้ได้ ทำไมเราซึ่งมีสมองสองมือสองแขนสองขาจะทำเช่นนั้นไม่ได้

ความแตกต่างอยู่เพียงที่เราจะรับความร้อนและแรงอัดแห่งชีวิตได้เพียงไร และเราจะยอมทนรับความร้อนและแรงอัดแห่งชีวิตหรือไม่

เพราะในการเปลี่ยนถ่านเป็นเพชรไม่มีทางลัดและมนตร์วิเศษ ต้องใช้ความร้อนและแรงอัดมหาศาลทางเดียวเท่านั้น



ที่มา : วินทร์ เลียววาริณ

www.winbookclub.com

26 มีนาคม 2559

คมคำคนคม

Perhaps time?s definition of coal is the diamond.

Kahlil Gibran

บางทีเวลาให้คำจำกัดความของคำถ่านหินว่าเพชร

คาลิล ยิบราน