เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
Menu
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ครูเลิศชาย ปานมุข
ครูเลิศชาย ปานมุข
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙
เรื่องเล่าและภาพความประทับใจกับพระราชกรณียกิจ
ในหลวงกับวงการกาแฟไทย ธ เสด็จไกลกันดาร เพื่อกาแฟเพียงต้นเดียว
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
หน้า:
1
ผู้เขียน
หัวข้อ: ในหลวงกับวงการกาแฟไทย ธ เสด็จไกลกันดาร เพื่อกาแฟเพียงต้นเดียว (อ่าน 3188 ครั้ง)
เลิศชาย ปานมุข
Administrator
Hero Member
กระทู้: 3923
ในหลวงกับวงการกาแฟไทย ธ เสด็จไกลกันดาร เพื่อกาแฟเพียงต้นเดียว
เมื่อ:
ตุลาคม 17, 2016, 01:10:35 AM
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ย้อนกลับไปเมื่อราวๆ พุทธศักราช 2517 โดยพล.ต.อ. วสิษฐ เดชกุญชร เล่าไว้ในหนังสือ "รอยพระยุคลบาท บันทึกความทรงจำของ พล.ต.อ. วสิษฐ เดชกุญชร" ความตอนหนึ่งว่า
"ในท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่สับสนและวุ่นวายในปลายปีพุทธศักราช ๒๕๑๗ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ยังทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจทั้งมวลเป็นปกติโดยไม่ทรงหวั่นไหว โดยเสด็จแปรพระราชฐานไปประทับ ณ ตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ที่เชียงใหม่ และเสด็จออกเยี่ยมเยียนราษฎรทั้งราษฎรชาวเขาเผ่าต่างๆ กับประชาชนซึ่งอยู่ในที่ราบลุ่มตามที่ทรงปฏิบัติเสมอมาทุกปี ครั้งนั้นเจ้าอยู่หัวทรงขับรถยนต์พระที่นั่งด้วยพระองค์เอง ซึ่งทรงกระทำเช่นนี้เป็นปกติ ทรงขับรถยนต์พระที่นั่งฝ่าฝุ่นแดงและความลุ่มดอนของถนนในสมัยนั้นออกเยี่ยมราษฎรอีกหลายพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่
ในวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๑๗ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมด้วยสมเด็จฯ เสด็จไปเยี่ยมเยียนราษฎรซึ่งเป็นชาวเขาบนดอยอินทนนท์ ในการทรงเยี่ยมเยียนราษฎรชาวเขาครั้งนี้ หลังจากเสด็จด้วยรถยนต์พระที่นั่งทรงเยี่ยมชาวเขาเผ่าม้งที่บ้านขุนกลาง ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง แล้ว
พระองค์และสมเด็จฯ ยังได้เสด็จพระราชดำเนินด้วยพระบาท ไปตามไหล่เขาที่สูงบ้างต่ำบ้างเป็นระยะทางประมาณ ๓ กิโลเมตร เพื่อทรงเยี่ยมชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงที่บ้านอังกาน้อย และทรงพระดำเนินต่อไปอีก 2 กิโลเมตร เพื่อพระราชทานไก่พันธุ์โร้ดไอส์แลนด์เร็ดและผ้าห่มให้แก่ชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงที่บ้านท่าฝั่งเช่นเดียวกับที่บ้านอังกาน้อย
ต่อจากนั้นยังทรงพระดำเนินต่อไปอีกประมาณหนึ่งกิโลเมตร จนถึงไร่กาแฟที่ราษฎรชาวกะเหรี่ยงปลูกไว้ รวมเป็นระยะทางที่ทรงพระดำเนินทั้งสิ้นในบ่ายวันนั้นประมาณ ๖ กิโลเมตร เพื่อทอดพระเนตรไร่กาแฟที่มีต้นกาแฟให้พระเจ้าอยู่หัวทอดพระเนตรเพียงต้นเดียว
เสร็จจากการทอดพระเนตรต้นกาแฟต้นเดียวแล้ว พระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จฯ ยังต้องทรงพระดำเนินกลับออกไปยังรถยนต์พระที่นั่งที่จอดไว้ที่แยกปากทางเข้าบ้านอังกาน้อย รวมเป็นระยะทางที่เสด็จพระราชดำเนินด้วยพระบาทในวันนั้นประมาณ ๑๒ กิโลเมตร แล้วพระเจ้าอยู่หัวยังต้องทรงขับรถยนต์พระที่นั่งกลับด้วยพระองค์เองอีกจนถึงพระตำหนักด้วย..."
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ได้สร้างความสงสัยให้กับคณะและผู้ที่ติดตามพระองค์เป็นอันมากว่าเหตุไฉนพระองค์จึงต้องทรงดั้นด้นเดินทางเป็นระยะทางไกลมากมายขนาดนั้นเพื่อไปทอดพระเนตรเพียงแค่ต้นกาแฟต้นเล็กๆ ต้นเดียวซึ่งพระองค์ก็น่าจะทราบความฉงนสงสัยที่ว่านี้จึงได้มีพระราชกระแสกับข้าราชบริพาร ที่อยู่ในขบวนเสด็จฯ ที่ไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ของพระองค์ ด้วยพระสุรเสียงที่เปี่ยมไปด้วยพระเมตตาว่า
"...แต่ก่อนเขาปลูกฝิ่น เราไปพูดจาชี้แจง ชักชวนให้เขามาลองปลูกกาแฟแทน กะเหรี่ยงไม่เคยปลูกกาแฟมาก่อน ยังดีที่กาแฟไม่ตายเสียหมด แต่ยังเหลืออยู่หนึ่งต้นนั้น ต้องถือว่าเป็นความก้าวหน้า สำหรับกะเหรี่ยง... จึงต้องเสด็จฯ ไปทอดพระเนตร จะได้แนะนำเขาต่อไปว่า ทำอย่างไรกาแฟ จึงจะเหลืออยู่มากกว่าหนึ่งต้น"
ปรากฏว่าปีต่อมา ราษฎรชาวกะเหรี่ยง ดอยอินทนนท์ขายกาแฟ ได้เป็นเงินต่อไร่ต่อปี สูงกว่าที่เคยขายฝิ่นได้ และนับแต่นั้นเป็นต้นมาบรรดาชาวเขาก็ได้ร่วมมือกันกับภาครัฐเริ่มต้นปลูกและพัฒนาเมล็ดกาแฟกันอย่างจริงจังจนทใำห้กาแฟของไทยมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกดังเช่นทุกวันนี้แถมยังเป็นการช่วยกำจัดการปลูกฝิ่นในบ้านเราและสร้างอาชีพให้กับชาวเขาและชาวบ้านสืบไป จึงนับเป็นพระราชกรณียกิจอันยิ่งใหญ่สำหรับชาวไทยภูเขาและชาวบ้านในถิ่นทุรกันดารที่คนไทยทั่วประเทศและทั่วโลกมิเคยลืมเลือน
ที่มา :
http://kafeme.blogspot.com/2016/10/blog-post_13.html
Tweet
พิมพ์
หน้า:
1
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
ครูเลิศชาย ปานมุข
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙
เรื่องเล่าและภาพความประทับใจกับพระราชกรณียกิจ
ในหลวงกับวงการกาแฟไทย ธ เสด็จไกลกันดาร เพื่อกาแฟเพียงต้นเดียว
Search
ชื่อผู้ใช้งาน
รหัสผ่าน
คงสถานะการเข้าระบบไว้ตลอด
ลืมรหัสผ่าน?