ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องเล่า อ.บรรจง 'ในหลวง' กับ 'เสือ' ที่ทุ่งใหญ่ เสด็จฯมา 2 ปีติด  (อ่าน 4405 ครั้ง)

ออนไลน์ เลิศชาย ปานมุข

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3923

นายบรรจง นราอาจ อายุ 83 ปี อยู่เลขที่ 18 หมู่ 2 ถ.โคกมันพัฒนา ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ที่บุคคลทั่วไปเรียกท่านว่า อาจารย์บรรจง อดีตข้าราชการครูบำนาญ เคยได้รับเสด็จฯ และถวายงานในหลวง รัชกาลที่ 9 ถึง 2 ครั้ง สมัยที่พระองค์ท่านเสด็จฯ มาในพื้นที่

อาจารย์บรรจง เล่าว่า เมื่อปี พ.ศ. 2522 ตนมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยหัวหน้าหมวดการศึกษา อ.ทุ่งใหญ่ และเป็นผู้อำนวยการฝึกลูกเสือชาวบ้าน พื้นที่ อ.ทุ่งใหญ่ ครั้งนั้นพระองค์ท่านเสด็จฯ มาที่ว่าการอำเภอทุ่งใหญ่ อาจารย์บรรจง เป็นผู้อำนวยการฝึกยืนอยู่ด้านหน้าของกลุ่มลูกเสือ ในหลวงได้พูดสอบถามว่า เสือฉลอง บ้านอยู่ที่ไหน ซึ่งในสมัยนั้นชื่อของ เสือฉลอง หรือ เสือหลอง คือโจรที่ปล้นฆ่าชื่อดังของ จ.นครศรีธรรมราช และใกล้เคียง อาจารย์บรรจงได้ตอบพระองค์ท่านไปว่าบ้านของ เสือฉลอง หรือ เสือหลอง อยู่ในพื้นที่ อ.นาบอน ต่อมา พระองค์ท่านทรงถามกลับมาอีกว่า เขาค่ายอยู่ที่ไหน อาจารย์บรรจงตอบไปว่าอยู่พื้นที่รอยต่อ จ.กระบี่ กับ จ.สุราษฎร์ธานี ในหลวงทรงตอบกลับมาว่า ไม่ใช่ อยู่ที่ทุ่งใหญ่ อาจารย์บรรจงได้ตอบพระองค์ว่า ถ้าเป็นที่ทุ่งใหญ่ก็ต้องเป็นป่าไสค่าย ในหลวงทรงกางแผนที่พร้อมกับนำดินสอออกมาแก้คำว่า เขาค่าย เป็น ไสค่าย เดี๋ยวนั้นเลย ซึ่งปัจจุบันไสค่าย อยู่หมู่ 2 ต.ท่ายาง และติดต่อกับพื้นที่ หมู่ 3 หมู่ 4 ต.ปริก อ.ทุ่งใหญ่

อาจารย์บรรจง กล่าวอีกว่า ในหลวงทรงถามต่ออีกว่า ทุ่งใหญ่ เสือนอนหลับอยู่ที่ไหน ได้ตอบพระองค์ท่านไปว่า อยู่ที่โรงเรียนทุ่งใหญ่วิทยาคม ที่พระองค์ทรงเสด็จลงจากเฮลิคอปเตอร์ อาจารย์บรรจงบอกว่า ที่พระองค์ถามเช่นนั้นเพราะเห็นว่าเป็นชื่อที่แปลก ที่ตรงนั้นเมื่อก่อนเป็นป่าใหญ่รกทึบ เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่เสือมักจะมาอาศัยเป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้คนในสมัยนั้นไม่กล้าที่จะเดินผ่านเส้นทางนี้ เพราะเกรงจะถูกเสือทำร้าย ต่อมา พระองค์ท่านยังได้ซักถามอีกว่าระยะทางจากสี่แยกท่ายางถึงบ้านหลักช้าง ถนนได้ลาดยางเสร็จมากี่ปีแล้ว อาจารย์บรรจงได้ตอบในหลวงไปว่า ยังเป็นถนนลูกรัง ยังไม่ได้ลาดยาง พระองค์ท่านทรงกางแผนที่ขึ้นมาดูพร้อมกับตรัสว่าเป็นถนนดำแล้ว ตนจึงได้แต่ก้มหน้าพร้อมกับตอบเพียงสั้นๆ ว่า ครับ ใช้เวลาการสนทนาอยู่นาน 20 นาที พระองค์ท่านก็เสด็จเยี่ยมราษฎรที่มารอรับเสด็จฯ ในครั้งนั้นได้เสด็จมาพร้อมกับ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ รวม 4 พระองค์

ต่อมา เมื่อปี พ.ศ. 2523 อาจารย์บรรจง ได้รับการประสานจากกองทัพภาค 4 ให้ไปดูสถานที่ที่องค์การสวนยางกรุงหยัน ต.กรุงหยัน เพราะทราบว่าในหลวงจะเสด็จฯ ลงที่กรุงหยัน อาจารย์บรรจง พร้อมด้วย นายบัญชา ถาวรานุรักษ์ นายอำเภอทุ่งใหญ่ในขณะนั้นได้ไปร่วมประชุมกับกองทัพภาค 4 เห็นว่า พื้นที่กรุงหยันไม่ปลอดภัย เพราะมีภูมิประเทศเป็นป่าเขาล้อมลอบ ที่สำคัญมีกลุ่มผู้ก่อการร้ายชุกชุม (ผกค.) มีการเคลื่อนไหวอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเสนอสถานที่แห่งใหม่ ตกลงกันว่าเป็นที่วัดควนสระบัว จากนั้นกองทัพได้มอบหมายให้ตนนำคณะกลุ่มลูกเสือชาวบ้านไปนำทรายมาเทลาดปรับเป็นลานที่พระองค์จะเสด็จมา

"ในครั้งนี้ ในหลวง รัชกาลที่ 9 เสด็จมาพร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ, สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ รวม 5 พระองค์ สาเหตุที่ทรงเสด็จฯ มาในพื้นที่ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ถึง 2 ครั้งติดต่อกัน 2 ปี เนื่องจากพระองค์ทรงเป็นห่วงประชาชน ได้ทราบข่าวว่าในพื้นที่ อ.ทุ่งใหญ่ โดยเฉพาะที่ว่าการอำเภอทุ่งใหญ่ และที่สถานีตำรวจภูธรทุ่งใหญ่ มีกลุ่มผู้ก่อการร้ายใช้อาวุธต่างๆ ยิงถล่ม และจุดไฟเผาโรงพัก พระองค์ทรงเป็นห่วงประชาชน และได้เสด็จฯ มาเยี่ยมสอบถามถึงความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด"

ปัจจุบัน อาจารย์บรรจง ใช้ชีวิตหลังเกษียญราชการอยู่ด้วยความพอเพียง ยังได้มอบเงินสมทบทุนให้แก่มูลนิธิชัยพัฒนามาโดยตลอดทุกปี และในแต่ละเดือนทางมูลนิธิชัยพัฒนาได้จัดส่งหนังสือวารสารของทางมูลนิธิ ส่งมาให้ที่บ้านของอาจารย์บรรจง ปัจจุบัน อาจารย์บรรจงมีตำแหน่งทางสังคม คือเป็นประธานสภาวัฒนธรรม อ.ทุ่งใหญ่, เป็นผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท คดีแพ่ง-อาญา อ.ทุ่งใหญ่, เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ อ.ทุ่งใหญ่, เป็นกัลยาณมิตร ป.ป.ช., อ.ส.ค. และคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ป.ช.ทุ่งใหญ่, ที่ปรึกษา รพ.ทุ่งสง รพ.ทุ่งใหญ่ และเป็นประธานชมรมผู้สูงอายุ อ.ทุ่งใหญ่

ที่มา : https://www.msn.com/th-th/