ว่าด้วย น้ำ และ ปลา กับการบริหาร
****************
เช้านี้ตื่นขึ้นมา นั่งจิบกาแฟ เปิดอ่านเจอประโยคคำคมผู้นำสั้นๆ ของ สามก๊ก บอกว่า ?น้ำใสเกินไป ปลาอยู่ไม่ได้ กฎระเบียบที่เข้มมากเกินไป คนก็อยู่ยาก? ก็เลยลองคิดพินิจพิเคราะห์หาเหตุผลและคำตอบจากความหมายของประโยคนี้ ได้ความว่า
หากน้ำนั้นใสสะอาดบริสุทธิ์จนเกินไป ปลาคงดำรงชีวิตอยู่ได้ยากลำบาก เพราะเป็นอันตราย ศัตรูเช่นนก หรือ แม้แต่ปลาที่ใหญ่กว่า สามารถมองเห็นและทำอันตรายได้ง่าย สังเกตได้จาก ห้วย หนอง คลอง บึง แม่น้ำ ที่มีความใสสะอาดมากๆ มักจะไม่ค่อยมีปลาและสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่จริงๆ และอีกอย่างน้ำที่มีความบริสุทธิ์มากๆนั้นน้ำจะแทรกซึมเข้าไปในเซลล์ของตัวปลาได้ ทำให้ปลาเสียสมดุล เคลื่อนไหวช้าลง หมดกำลังในการแหวกว่าย และอาจตายไปในที่สุด
สำหรับน้ำที่ขุ่นไม่มาก ปลาจะดำรงชีวิตอยู่ได้ดี เพราะสามารถใช้อำพรางตัว ซ่อนตัว มีเกราะป้องกัน การจู่โจมจากภายนอก หรือ จากปลาที่ใหญ่กว่า อีกประการหนึ่ง น้ำขุ่นแสดงว่า มีสารอินทรีย์ อนินทรีย์ แร่ธาตุต่าง ๆ สิ่งที่มีชีวิตขนาดเล็ก เช่น แพลงค์ตอน แบคทีเรีย มีธาตุอาหาร ให้ปลาหากิน ปลาจึงชอบอยู่ในน้ำชนิดนี้
น้ำที่ขุ่นดำ ปลาก็ไม่สามารถอยู่ได้เช่นกัน เพราะน้ำเน่าเสีย กลิ่นน้ำเสียก็จะซึมติดตัวปลาด้วย ปลาส่วนใหญ่จะหาทางว่ายหนี เพื่อหาน้ำที่ใสกว่า ดีกว่า เพื่อให้ตัวเองอยู่รอดปลอดภัย มีออกซิเจนหายใจ และมีชีวิตต่อไปได้ ไม่อย่างนั้นตัวเองก็จะตายไปกับน้ำที่เน่าเหม็นนั้น
สังคมที่เราอยู่หรือสังคมของการทำงานที่มีระเบียบกฎเกณฑ์สูงเกินไป เคร่งครัดเกินไป จะทำให้คนไม่อยากอยู่ เพราะอยู่ไม่ได้ จึงต้องมีการผ่อนปรนบ้างเล็กน้อย ให้เขามีที่พักมีที่กำบัง มีที่หายใจ ตามเหตุ ตามผล ที่สมควร เพราะแท้จริงแล้วมนุษย์ชอบเสรีภาพ ต้องการการยอมรับ ไม่ต้องการการข่มขู่ หรือ กดดัน ชอบการให่เกียรติซึ่งกันและกัน พึงพาอาศัยกัน แต่ทว่า ก็ต้องมีกฎเกณฑ์ควบคุมเพื่อให้สังคมมีความปกติเรียบร้อยไม่เกิดปัญหา มันขึ้นอยู่ที่ว่า น้ำ ก็คือ ผู้นำหรือผู้บริหาร จะเป็นแบบไหน เป็นแบบน้ำใสสะอาดบริสุทธิ์ แบบน้ำขุ่นไม่มาก หรือ เป็นน้ำขุ่นดำ จำนวนปลาที่ยังอยู่กับเราเท่านั้นจะเป็นเครื่องพิสูจน์ครับ
**********************
เวลา 08.58 น.
วันที่ 6 มกราคม พ.ศ.2560
