ผู้เขียน หัวข้อ: วันหมดอายุของการรอคอย  (อ่าน 5312 ครั้ง)

ออนไลน์ เลิศชาย ปานมุข

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3923
เมื่อ: กรกฎาคม 29, 2015, 10:57:16 PM


คุณจำได้ไหม

วันนั้น ใครที่โทร.ไปหา
แล้วใครที่ไม่ยอมรับสาย

ใครที่บอกว่าคิดถึง
แล้วใครที่บอกว่ารำคาญ

ใครที่อยากเจอะเจอ
แล้วใครที่บ่ายเบี่ยงเสมอ

ใครที่ตั้งตาตั้งใจไปหา
แล้วใครที่แกล้งหลบหน้า

ใครที่ล้มลุกคุกคลาน
แล้วใครที่มองผ่าน แล้วหันมายิ้มเยาะ

ใครที่ร้องขอ
แล้วใครที่บอกว่าให้รอไปก่อน แล้วก็จบลงด้วยคำว่าไม่ในทุกที

ใครที่ขอให้คุณทบทวนการตัดสินใจใหม่
เมื่อคุณอยากหยุดทุกอย่างไว้ ให้เราสิ้นสุดกันตรงนี้
แล้วใคร? ที่ยังคงยืนยันเจตนาเดิม


.................................................................

วันนั้น
ฉันเหมือนคนที่กระหายน้ำจนจวนเจียนตายอยู่กลางทะเลทราย
เมื่อสายตาอันพร่าเลือน มองเห็นเธอที่มองมาด้วยสายตาคล้ายว่าอยากจะช่วย
คนตะเกียกตะกายคนนี้จึงไม่รีรอจะก้าวเข้าไปหา


แต่แล้ว
สิ่งที่คนใกล้ตายเพราะหิวน้ำได้รับ
กลับมีเพียงแก้วเปล่าหนึ่งใบ
ก่อนที่คนที่เราเข้าใจว่าคือผู้ใจบุญในทีแรก
จะหันหลังให้แล้วเดินต่อไปอย่างไม่รู้สึกรู้สา
หาได้นำพาต่อเสียงสะอื้นไห้ของใครที่ร้องเรียกเพรียกหาคุณอยู่ข้างหลัง


ไม่มีเพียงเสี้ยวอณูใจ หรือหยดน้ำหยดใดที่ฉันได้รับ
นอกจากหยดน้ำตา หยดแล้วหยดเล่าของตัวเอง

มีเพียงความว่างเปล่า ที่เข้ามาตอกย้ำหัวใจให้ชอกช้ำตรอมตรมยิ่งกว่าเก่า

ครั้นเวลาผันผ่าน
นานวันเข้า สายลมก็หอบฝนมาโปรยปรายบนทะเลทราย ให้คนกระหายน้ำได้ชุ่มฉ่ำ
ดื่มด่ำสายน้ำจนหัวใจที่เคยเหือดแห้ง ได้กลับมามีชีวิตชีวาอย่างเก่า

คนที่เคยเดินหนีไป ก็เดินเข้ามาหาอีกครั้ง พร้อมยื่นน้ำเย็นแก้วใหญ่มาให้ตรงหน้า

สิ่งที่วันนั้น..ฉันเคยปรารถนาฝันใฝ่หมายมั่นที่จะได้มาเป็นนักหนา
ถูกเสนอมาให้ในวันนี้
วันที่ฉันมองไม่เห็นอีกต่อไป ว่าคุณค่าของมันอยู่ที่ตรงไหน
แม้เพียรพิศดูเพียงใด ก็ไม่เห็นความหมายของมันแม้เพียงเศษเสี้ยว


คงไม่แปลก และไม่ผิดเลยใช่ไหม
ถ้าฉันจะปฏิเสธมัน หันหัวใจเมินมองไปทางอื่น


ในเมื่อสิ่งที่คุณเสนอจะให้
สิ่งที่ในวันนั้นคุณก็รู้ ว่าฉันเรียกร้อง อยากจะครอบครองเพียงใด
แต่คุณก็ยืนยันที่จะไม่ยินยอม
หาได้มีความจำเป็นต่อฉันหรือสลักสำคัญแต่อย่างใดในวันนี้


วันที่ฉันกำลังไขว่คว้าหาน้ำมาต่อชีวิต
น้ำที่รินมาแม้ให้เพียงหยด มีค่าฉันใด
วันที่ฉันได้ดื่มด่ำกับสายน้ำจนเอิบอิ่มแล้ว
น้ำทั้งเหยือกที่ถูกยื่นให้มา ก็ไร้ค่าฉันนั้น


ถ้ารักของเราเปรียบดั่งเส้นทาง
แล้วคุณเป็นเหมือนรถคันหนึ่ง ส่วนฉันคือทางแยก

คุณเอง ที่จงใจที่จะขับเลยทางแยกไป
แบบไม่คิดจะเลี้ยวสู่ทางแยกตรงนี้

ทางที่มีฉันทั้งยืนโบกมือโบกไม้
ทั้งวิ่งไล่ตามรถคันนั้นที่แล่นทะยานหายลับไปโดยไม้แม้แต่จะคิดชะลอ
ทิ้งไว้เพียงฝุ่นควันตลบ ลอยอวลกระทบต้องดวงตาจนน้ำใสๆ ไหลพรูลงมา


แล้วพอเมื่อผ่านไปนานโข รถคันนั้นก็ต้องการจะกลับรถสู่เส้นทางเก่าที่ขับเลยไปนานแล้ว

ถ้าคุณไม่รู้ หรือว่าคิดไม่ได้
ฉันก็จะขอบอกให้คุณรู้

ว่าการเดินทางของหัวใจบนถนนแห่งวันเวลานั้น
เป็นถนนที่มีเพียงขาไป ไม่มีขากลับ
ไม่มีช่องทางไหนให้หัวใจทุกดวงได้วกกลับกันได้ตามอำเภอใจ


คุณและฉันหรือใครๆ ย่อมทราบดีว่าบนถนนจริง
ถ้าใครต้องการจะกลับมายังทางแยกที่เลยไป ย่อมทำได้
และเมื่อย้อนกลับมา แยกนั้นก็จะยังรอการกลับมาของเราอยู่ดังเดิม

แต่บนถนนของหัวใจ
แม้คุณจะขัดขืนฝืนกฎ ดันทุรังที่จะกลับรถมายังทางแยกที่คุณเคยขับเลยไปอย่างไม่ไยดีได้
ก็ไม่ได้หมายความว่า แยกนั้นจะยังอยู่ หรือคนที่เคยยืนโบกมือจะยังมีตัวตนเพื่อรอคอย
ให้รถที่เคยเลยไปได้เลี้ยวเข้ามาได้อีก


จงอย่าได้กลับมาเลย
มุ่งจุดหมาย ตรงไปสู่สิ่งที่พี่คิดว่าคือเส้นชัยของคุณดังเดิมดีกว่า

เพราะวันนี้
เส้นทางความรักของเรา ไม่มีทางแยก
มีเพียง ?แยกทาง?

อย่าให้ความไม่แน่นอนของหัวใจคุณ
มาสร้างความสับสน ให้หัวใจของคนที่มีรักแท้เต็มหัวใจต้องทนซังกะตายกับความสิ้นหวังอีกเลย



++++++++++++++++++++++++++


ที่มา  :  learning.eduzones.com/racchidlom