ผู้เขียน หัวข้อ: ความรัก...ไม่เคยมีความบังเอิญ  (อ่าน 4354 ครั้ง)

ออนไลน์ เลิศชาย ปานมุข

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3923
เมื่อ: กรกฎาคม 29, 2015, 11:21:28 PM


รักที่เกิดจากการสบตาครั้งแรก
    เป็นรักที่ลึกลับที่สุด และอาจทำให้มนุษย์เจ้าเหตุผลหลายคนจำต้องคิดถึงสิ่งไร้เหตุผลต้นปลายหรือไม่ก็จำนนให้กับความเชื่อเรื่อง ?ต้นเหตุที่ถูกลืม? เช่นอดีตชาติ
    เพราะความรักชนิดนี้อาจพาไปสู่การร่วมอยู่กินตลอดชีวิตเพียงด้วยความรู้สึกตั้งแต่แรกพบว่า ?คนนี้คู่เรา?และพบในนาทีสุดท้ายยามตายจากกันว่า ?อย่างนี้ก็มีจริง?น้ำตาอาลัยและความมั่นใจว่าจะได้พบกันอีกคือบทสรุปที่ทำให้รักลึกลับชนิดนี้เป็นที่กระจ่างขึ้น

รักที่เกิดจากการเกื้อกูลกันและกัน
   เป็นรักที่เริ่มจากความปรองดอง มีความรู้สึกแสนดี อบอุ่นและสุขสบายภายในรัศมีสายตาของอีกฝ่ายอย่างรู้ว่าจะไม่ทอดทิ้งกัน มีความเสมอกัน

รักชนิดนี้เป็นสิ่งมีที่มาที่ไป
   และชวนให้เห็นว่าความรักหาใช่สิ่งมหัศจรรย์เกินความเข้าใจปัญหาก็คือชั่วชีวิตคนๆหนึ่งอาจไม่พบใครที่เต็มใจให้ความร่วมมือเกื้อกูลกันมากพอเลยสักครั้งเดียว

รักที่เกิดจากความใกล้ชิด
    เป็นรักที่อาศัยการอยู่ด้วยกันบ่อยๆใกล้กระแสกายกระแสใจของอีกฝ่ายแล้วไม่รู้สึกขัดแย้ง ไม่เกิดความรังเกียจหญิงชายที่เข้าข่ายดังกล่าวจะพบว่าเพียงใกล้กายธรรมชาติระหว่างเพศก็ทำงานแล้วดึงดูดให้อยากประกบติดกันได้แล้ว
    รักชนิดนี้อาจดูเป็นจริงเป็นจังและมีตัวตนจับต้องได้ต่อเมื่อลองพยายามจับต้องให้มั่นมือจึงรู้ว่าจริงหรือเก๊ แข็งหรือเหลว คงทนหรือละลายเร็วกันแน่

รักที่เกิดจากการคุยถูกคอ
   เป็นรักที่นับว่ามีพื้นฐานดีระดับหนึ่งเพราะการคุยกันถูกคอมักหมายถึงการพูดกันรู้เรื่องรวมทั้งมีเรื่องที่สื่อสารแลกเปลี่ยนกันได้แต่การพูดคุยมิใช่ทั้งหมดของการอยู่ร่วมกันหากความแตกต่างด้านอื่นชวนให้ไม่สนุกเกิดความสนุกจากการคุยอย่างเดียวในระยะยาวจะคุยแล้วสนุกน้อยลงเรื่อยๆหรือกระทั่งยิ่งคุยยิ่งเป็นทุกข์ อยากเมินหนีออกไปทุกที

รักที่เกิดจากการคุยแบบไม่เคยเจอตัว
   เป็นรักที่มีเสน่ห์วาบหวาม เพราะอาจไม่ต้องยืนพื้นอยู่บน ?โลกความจริง? ใดๆอาศัยเพียงจินตนาการอันเกิดจากลีลาเจรจาท่าเดียวพอปัจจุบันอินเตอร์เน็ตกลายเป็น ?อีกโลกความจริงหนึ่ง?ที่รักชนิดนี้เกิดขึ้นที่โน่นที่นี่และอาจพังลงด้วยความหนาวเย็นเพียงเมื่อปรากฏ ?ที่สุดของความจริง? ยามเจอตัวกันน้อยนักที่ความจริงกับเรื่องเหนือจริงในจินตนาการ จะประจบกันได้สนิท

รักที่เกิดจากความเห็นใจ
    เป็นรักที่น่าสับสนเพราะคนเรามักแยกไม่ออกว่า?ความรัก? กับความ ?สงสารมาก? ต่างกันตรงไหน
    คนบางคนสมควรได้รับการสงสารไม่ใช่เพราะเรียกร้องความสงสารแต่เพราะเหมือนเป็นคนดีตกยากเหมือนลูกหมาลูกแมวน่ารักที่ตุหรัดตุเหร่หาคนเลี้ยงดู
    เมื่อตรงมาทางเราแล้วปฏิเสธก็เหมือนใจไม้ไส้ระกำจนชวนให้รู้สึกผิดรุนแรง ไม่อาจทนดูดายรักที่มีแต่ความสงสารและเห็นใจอย่างเดียวอาจจบลงด้วยโศกนาฏกรรมในทางใดทางหนึ่งไม่ทางกายก็ทางจิตวิญญาณ
    เพราะในระยะยาวมนุษย์ทุกคนต้องเห็นใจตัวเองก่อนคนอื่นไม่อาจทนเสียสละให้กับความน่าสงสารของคนอื่นแล้วปล่อยให้ทั้งชีวิตของตนเต็มไปด้วยความน่าสงสารนานัปการไหว

รักที่เกิดจากความคิดอยากตอบแทน
    เป็นรักที่มาพร้อมกับความรู้สึกถูกรู้สึกผิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากตระหนักว่าทางเดียวที่จะตอบแทนคือการมอบความรักความพิศวาสใหักับผู้ทรงพระคุณซึ่งมาสนใจตน
    ภาคหนึ่งของความรู้สึกจะถูกต้องในขณะที่อีกภาคจะบาดใจและเต็มไปด้วยความ ?ผิดปกติ?รักชนิดนี้เหมือนการหลอกตัวเอง หลอกคนอื่นกระทั่งนานถึงจุดหนึ่งจะรู้ซึ้งว่ารักหลอกเป็นอย่างไร ทรมานใจได้แค่ไหน

รักที่เกิดจากการได้รับความเอาใจใส่ยิ่งยวด
   เป็นรักที่อีกฝ่ายยอมตนเป็นข้าทาส ปล่อยให้ตนเอาแต่ใจได้ทุกอย่างรักชนิดนี้เป็นอารมณ์ใจอ่อนและไม่มีตัวเลือกอื่นที่ดีกว่าหรือรู้สึกผิดเกินกว่าจะหลอกใช้โดยไม่ให้อะไรตอบแทนก้ำกึ่งอยู่ในระหว่างการเห็นค่ากับการไม่เห็นว่าอีกฝ่ายอยู่ในสายตาแม้แต่นิดเดียวรู้เพียงถ้ามีอีกฝ่ายอยู่ ตนจะได้ทุกสิ่งราวเจ้าชายหรือเจ้าหญิงแต่ก็พร้อมจะเย็นชาหรือเมินหน้าหนีเสมอโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพบตัวเลือกอื่นที่คุณสมบัติพร้อมกว่ากัน

รักที่เกิดจากความหลงรูปสมบัติภายนอก
    เป็นรักที่ปล่อยให้อิทธิพลของรูปร่างหน้าตา น้ำเสียงหรือลักษณะทางกายภาพอื่นๆเข้าครอบงำรักชนิดนี้ไม่มีหลักค้ำ ไม่มีฐานยืน เลื่อนลอยและต้องออกแรงจนเลือดตาแทบกระเด็นเพื่อหาเหตุผลสนับสนุนว่าเป็นรักที่สมควรแล้วซึ่งเพียงไม่กี่วันก็อาจพบว่ามันไร้เหตุผลสิ้นดี กับการรักษาความรักไว้เพื่อความเหนื่อยเปล่า

รักที่เกิดจากการหลงภาพลวงตา
    เป็นรักที่ยืนอยู่บนมายาฝ่ายหนึ่งอาจหวังผลจึงสร้างนิสัยน่ารักน่าใคร่ขึ้นมาล่อตาล่อใจให้หลงติดรักชนิดนี้อาจเรียกแรงทะยานได้ขนาดถูกฉุดให้หัวปักหัวปำยิ่งถลำลึกลงไปในกับดักหรือเหยื่อล่อมากขึ้นเพียงใดหูตาก็ยิ่งมืดมัว เห็นผิดเป็นชอบเห็นกงจักรเป็นดอกบัวมากขึ้นเท่านั้น
    รู้ทั้งรู้อยู่ในส่วนลึกว่าถูกหลอกใช้แต่ความคิดก็ถูกดึงให้ปักใจศรัทธาในเรื่องหลอกขอให้ได้บอกตัวเองว่าอีกฝ่ายรักตน แคร์ตนเท่านั้นพอจะยอมบุกน้ำลุยไฟหรือกระทั่งตกนรกทั้งเป็นก็ยังไหว

รักที่เกิดจากความเกลียด
    เป็นรักที่ซับซ้อน อาจเริ่มมาจากความเหนื่อยล้าเคยแค้นมาก จ้องจับผิดมาก ด่ามากกระทั่งใจผูกอยู่กับอีกฝ่ายอย่างเหนียวแน่นและบีบให้ต้องรู้รายละเอียดของอีกฝ่ายมากขึ้นเรื่อยๆจนต้องยอมรับข้อดีแล้วเกิดแรงดันของความอยากขออภัยหรืออยากให้อภัย หรืออยากญาติดีกัน
    นั่นเองพลังความเกลียดหรือความแค้นเก่าๆ จึงแปรตัวเป็นราคะเพราะไฟโทสะเป็นญาติสนิทกับไฟราคะ ต่างก็เป็นไฟมืดด้วยกันมีกิจเป็นการเผาผลาญให้ใจเกิดความร้อนรุ่มเหมือนๆกันเคยเกลียดแรงแค่ไหนก็กลายเป็นราคะแรงแค่นั้น
    รักชนิดนี้อาจเต็มไปด้วยความไม่ได้อย่างใจ ระหองระแหงกลับไปกลับมาระหว่างเห็นข้อดีและจับผิดเพ่งโทษ

รักยังมีเหตุอีกมาก แต่บางความรักก็ไม่ใช่ความรัก
เช่นรักความรวยนั้น เป็นคนละเรื่องกันกับรักคนรวย
ความรวยอย่างเดียว ไม่มีทางเป็นเหตุแห่ง ?ความรู้สึกรักคน? ได้เลย


รักระหว่างหญิงชายจะเกิดจากเหตุอันใด
ยืนพื้นอยู่บนบุญบาปแบบไหนก็ตาม
ท้ายสุดก็มีฤทธิ์ผูกใจไว้ ไม่ให้ได้เป็นไทในตนเอง
จนกว่าใครจะแสวงหา ''ความรักอิสรภาพทางใจ''
และพบกับรักชนิดนั้นจริง จึงยุติการสร้างเหตุแห่งทุกข์
รูปแบบใดรูปแบบหนึ่งลงเสียได้อย่างถาวร




ที่มา  :  คุ้มดอทเน็ต