ผู้เขียน หัวข้อ: ไมเกรนตัวร้าย โรคใกล้ตัวคุณ  (อ่าน 3316 ครั้ง)

ออฟไลน์ เลิศชาย ปานมุข

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3928
เมื่อ: สิงหาคม 04, 2015, 11:52:33 PM


ไมเกรนตัวร้าย โรคใกล้ตัวคุณ
by Daaw Chonlada


ใครที่ไม่เคยปวดหัวแบบไมเกรน คงไม่รู้ซึ้งถึงความทรมานที่คนอื่นมองไม่เห็นนี้หรอกค่ะ มันเป็นที่สุดของอาการปวดที่ทำให้เราไม่สามารถทำอะไรๆ ได้เป็นวันๆ แถมเจ้าโรคนี้ยังเป็นโรคที่หาสาเหตุกลางไม่เจออีกต่างหาก เรียกว่าใครเป็นเพราะอะไรก็เป็นโรคของคนนั้นๆ อาการเกิด และการรักษาก็ไม่เหมือนกัน

เอาล่ะสิ เจ้าไมเกรนนี่ไม่ใช่แค่การปวดหัวธรรมดาๆ เสียแล้ว ว่าแล้วเรามาหาทำความเข้าใจกับเจ้าโรคไมเกรนให้มากขึ้นกันดีกว่าครับ

Inside Migraine: เจาะลึกไมเกรน

สาวๆ รู้ไหมครับว่าไมเกรนเป็นโรคของผู้หญิง หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าไมเกรนเป็นโรคที่ผู้หญิงเป็นมากกว่าผู้ชายถึง 3 เท่า เพราะไมเกรนเป็นโรคที่มีความสัมพันธ์กับฮอร์โมนของผู้หญิงไงล่ะครับ ส่วนสาเหตุที่แท้จริงของปวดศีรษะไมเกรนยังไม่มีใครทราบ แต่เชื่อว่าสมองของผู้ป่วยที่เป็นไมเกรนมีความไวในการตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งอาจจะอยู่นอกร่างกายหรืออยู่ภายในร่างกายก็ได้ ทำให้หลอดเลือดมีการอักเสบเมื่อหลอดเลือดขยายจึงปวดศีรษะ

อาการเบื้องต้น ของคนชอบปวด (หัว)

แน่นอนว่าไมเกรนเป็นการปวดหัวแบบ Advance ย่อมไม่ใช่การปวดหัวแบบกะโหลกกะลาที่กินยาพาราแล้วหายแน่นอน อาการส่วนใหญ่มักปวดศีรษะข้างเดียว อาจจะสลับซ้ายขวาได้ ลักษณะปวดเป็นแบบช่วงๆ ตุ๊บๆน้อยรายที่จะปวดพร้อมกันสองข้าง

บางคนปวดมากจนทำงานไม่ได้ บางคนปวดจนน้ำตาไหล (ไม่ได้เศร้า แต่มันปวด!) ส่วนใหญ่ปวดเป็นเวลา 4-72 ชั่วโมง! ปัจจัยที่ทำให้ปวดศีรษะมากขึ้นคือการเคลื่อนศีรษะ เพราะฉะนั้นก็นอนเฉยๆ บ้าง จะช่วยให้ทรมานน้องลง

หลังปวดศีรษะอาจมีอาการคลื่นไส้ ถ้าเป็นมากจะอาเจียน โดยมากจะมีสิ่งที่กระตุ้นทำให้ปวดศีรษะได้แก่ แสงจ้า อากาศเย็นหรือร้อนจัด เสียงดัง ความเครียด ความวิตกกังวล ฯลฯ

บรรเทาอาการปวดกันดีกว่า

เมื่อมีคำถาม ต้องมี่คำตอบ ~ เอ๊ย....เมื่อมีสาเหตุเราก็ต้องมีการบรรเทารักษาอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าปัจจุบันอาการปวดหัวไมเกรนที่ดูจะเป็นโรคสามัญ เบสิกๆ แต่ก็ยังคงเป็นโรคฮิตของสาวๆ ออฟฟิศอีกหลายคน นอกจากการทานยารักษาตามอาการแล้ว เรามาดูหนทางเยียวยาอาการไมเกรนแบบอื่นๆ กันเถอะ

กินอาหารให้ตรงเวลา

สาวจอมไดเอ็ททั้งหลาย รู้ไหมคะว่าการกินอาหารไม่ตรงเวลา หรือไดเอ็ทแบบอดมื้อกินมื้อที่งดอาหารเป็นบางมื้ออาจทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (hypoglycemia) ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่ทำให้อาการปวดหัวกำเริบได้

ลดน้ำตาล - ของหวานบ้าง


การกินของหวานมากๆ เครื่องดื่มเติมน้ำตาล หรือลูกอมอาจทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นเร็วและลงเร็ว ผลที่ตามมาคือ ระดับน้ำตาลในเลือดจะขึ้นๆ ลงๆ โดยเฉพาะ "ขาลง" นั้นมีส่วนกระตุ้นอาการปวดหัวได้ งานนี้ถ้าจะลดบ้างอะไรบ้างก็คงไม่เป็นไร เรียกว่าได้ทั้งหายปวดหัว และหายอวบอีกต่างหาก

บอกลาแอลกอฮอล์

เหล้า เบียร์ ไวน์ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหมดทั้งมวล มีส่วนกระตุ้นทำให้ปวดหัวไมเกรนเพิ่มขึ้นได้ กลไกอาจเป็นจากการที่หลอดเลือดเต้นแรงขึ้น (ขยายตัว-หดตัวมากขึ้น) ในช่วงแรก และระดับน้ำตาลในเลือดมักจะต่ำลงในเวลาต่อมา (แอลกอฮอล์มีพิษต่อตับ ไปกดการสร้างน้ำตาลจากแป้งในตับ) กลไกลเหล่านี้เองที่ทำให้คุณปวดหัวจี๊ดๆ ตุ๊บๆ ทุกครั้งที่ตื่น หรือจะเรียกอีกอย่างให้คุ้นหน่อยก็ "แฮงค์" ไงล่ะคะ

ปรึกษาหมอ


ถ้าเป็นบ่อยตั้งแต่ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ปรึกษาหมอดูว่า มีเวลาปวดหัวขึ้นมา ควรทำอย่างไร เช่น ควรกินยาอะไรบ้าง ขนาดเท่าไร อย่าเปรี้ยวแปลงตัวเป็นหมอรักษาตัวเองเด็ดขาดนะคะสาวๆ เดี๋ยวแค่ไมเกรนจะไปกันใหญ่นะคะ

เตรียมยาใกล้ตัว

เตรียมยาแก้ปวดไว้ติดบ้านเลยค่ะ อย่าให้ห่างกาย อย่าปล่อยให้ยาหมด ให้เตรียมยาไว้อย่างน้อย 2-4 เม็ดเผื่อไว้เลย ถ้าเดินทางบ่อยให้มีกระเป๋ายาพกพาไว้เสมอ หรือติดป้ายเตือนที่ประตูบ้านว่า อย่าลืมนำยาไปด้วย ถ้าขับรถบ่อยแถมขี้ลืม ให้เตรียมยาไว้ในรถเลือกที่แดดส่องไม่ถึงนะคะ ไม่งั้นยาอาจเสื่อมสภาพได้

แค่นอนให้พอ เป็นเวลา ก็หายปวดได้

ภาวะอดนอน การเปลี่ยนเวลานอน เช่น วันนี้นอนหัวค่ำ พรุ่งนี้นอนดึก ฯลฯ อาจกระตุ้นไมเกรนได้เพราะฉะนั้นถ้าจำเป็นต้องเดินทางไกลข้ามคืน เช่น นั่งเครื่องบิน รถไฟ รถทัวร์ ฯลฯ ควรลงทุนเดินทางกลางวัน หรือเลือกเดินทางแบบไม่รีบร้อน เพื่อให้มีเวลานอนชดเชยมากพอ ตื่นมาจะได้ไม่เจ็ทแล็ก เทรนแล็ก ทัวร์แล็ก กันนะคะสาวๆ

ระวัง! อาการคล้าย แต่ไม่ใช่ไมเกรน


สาวๆ ขาอาการปวดหัวไม่ใช่เรื่องจิ๊บๆ นะคะ เพราะบางครั้งอาจะเป็นสาเหตุของโรคร้ายอย่างเส้นเลือดในสมองแต่ก็เป็นได้ เพราะฉะนั้น หากปวดหัวแบบนี้ ให้ระวังว่าไม่ใช่ไมเกรนแล้วล่ะค่ะ แต่อาจเป็นโรคอื่นๆ (ที่หนักกว่า) ต้องรีบพบแพทย์ด่วนๆ จ้า

1. อาการปวดศีรษะปวดขึ้นทันที โดยมากเกิดจากหลอดเลือดในสมองแตก

2. อาการปวดศีรษะเป็นบ่อยขึ้น รุนแรงขึ้นนานขึ้น

3. อาการปวดศีรษะพบร่วมกับ ไข้ คอแข็ง ผื่น

4. มีอาการทางระบบประสาทอื่น เช่น ชัก

5. อ่อนแรงของแขนขาข้างใดข้างหนึ่ง


ไมเกรนจะเป็นโรคไม่ร้ายอีกต่อไป หากเราเข้าใจและรู้วิธีรักษาตัวเบื้องต้นได้ อย่างไรก็ตาม การไม่เป็นโรค ก็เป็นลาภอันประเสริฐเสมอ เพราะฉะนั้น ดูแลสุขภาพกันตั้งแต่เนิ่นๆ จะดีที่สุดนะจ๊ะ

 

ข้อมูลจาก chicministry.com
ที่มา  :  campus.sanook.com